วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

Snaeh Chlong Vaeha "รักข้ามขอบฟ้า" ภาพยนต์สองแผ่นดิน

หลักการและเหตุผล

Snaeh Chlong Vaeha 
"รักข้ามขอบฟ้า" ภาพยนต์สองแผ่นดิน

"ท่านเชื่อในอนุภาพของความรักไหม ว่าไม่มีสิ่งใดสามารถขวางกั้นได้"


ความรักสามารถข้ามเส้นแบ่งทุกๆเส้นบนโลกใบนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นแบ่งทางภาษา เชื้อชาติ สัญชาติ ก็ไม่อาจขวางกั้นความรักระหว่างกัน ได้ ถ้าหัวใจของคนสองคน ประเทศสองประเทศ เปิดหัวใจเชื่อมหากันได้ ไปมาหาสู่กันดุจญาติพี่น้อง แม้บางยุค บางสมัย อาจจะมีปัญหาอุปสรรคจากความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้นำทางการเมืองทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค อาจจะรวมไปถึงระดับโลกด้วยก็ได้ ที่ทำให้ความรัก ความสมัครสมานสามัคคีต้องหยุดชะงักลง จนเกือบกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรง อันนำมาซึ่งความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ 

ซึ่งอาจจะนำความสูญเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามแนวชายแดนอยู่เรื่อยหากปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ใขและควรมเข้าใจที่ดีระหว่างกัน

 อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนทั้งสองประเทศในระดับประชาชน ก็ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ในหลายๆมิติ ทั้งการค้าตามแนวชายแดน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงวงการบันเทิงด้วย ที่มีความร่วมมือกันหลายๆโอกาส หลายวาระที่น่าสนใจ ดังเช่น ภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามขอบฟ้า ในปี 1971

ภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามขอบฟ้า ซึ่งเป็นภาพยนต์ความร่วมมือระหว่าง ราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรกัมพูชา ที่สร้างในปี 1971 นำแสดงโดย นักแสดงจากประเทศไทย สมบัติ เมทะนี และอรัญญา นามวงศ์ พร้อมทั้งนักแสดงจากกัมพูชา เจีย ยุทธร และ ดี สาเวต กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา อำนวยการผลิตโดยบริษัท เอเชียฟิลม์

เรื่องราวในอดีตที่สะท้อนถึงตัวแบบความสัมพันธ์ของผู้คนสองประเทศ ทั้งไทย และกัมพูชา โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ที่ทำมาหากิน ใช้ชีวิตร่วมกัน และแต่งงานกันข้ามเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศ ที่แม้จะมีสถานการณ์ใดๆ ระหว่างประเทศ ความผูกพันระหว่างผู้คนทั้งสองประเทศ ก็ยังคงพึ่งพาอาศัยกัน และดำเนินต่อไป


เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ขับร้องโดยนักร้องชาวกัมพูชา โดย สิน สีสามุต,ดี สาเวต และรส เสรีสุทธา
ทั้งภาคภาษากัมพูชา และภาษาไทย


เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะใช้ความรัก สันติภาพ และภราดรภาพ เป็นเครื่องมือในการยับยั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย และกัมพูชา